
ศิลปะการถ่ายภาพกับการแสดงอารมณ์ด้วยภาพถ่าย
ศิลปะการถ่ายภาพเป็นศิลปะที่ ต้องมีความรู้เกี่ยวกับงานที่ทำเป็นอย่างมากโดยไม่ว่าจะถ่ายรูปอะไรไม่ว่าจะ เป็นคน สัตว์ สิ่งของ ก็ต้องมีข้อมูลและการเตรียมงานเป็นอย่างดีเพื่อให้งานทำนั้นออกมาได้อย่าง สวยงามอย่างเช่นการถ่ายรูปนกเองก็ต้องศึกษาถึงลักษณะการอยู่อาศัยรวมถึง ลักษณะนิสัยของนกตัวนั้นว่าชอบอะไรเพื่อที่เราจะสามาพบเจอและเก็บภาพได้ตาม ที่ต้องการซึ่งเมื่อเรารูหลักการที่อยู่อาศัยของมันแล้วสิ่งต่อไปก็คือควร ใช้อุปกรณ์การเก็บบันทึกรูปภาพหรือกล้องถ่ายรูปแบบไหนจึงจะสามรถเก็บรูปภาพ ได้อย่างชัดเจนทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ในการถ่ายรูปด้วยเราจึงสามารถ ถ่ายรูปภาพได้สวยงามตามความต้องการ ซึ่งเราสามารใช้เทคนิคเหล่านี้กับสัตว์ชนิดอื่นๆได้อีกด้วย แต่สับหรับสัตว์ที่มีอันตรายสูงอย่าเช่นพวกงู หรือจระเข้แล้ว ควรความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษเพราะถ้าพลาดเพียงนิดเดียวอาจจะถึงกับเสียชีวิต ได้เลยครับ
นอกจากการถ่ายรูปสัตว์ต่างๆ แล้วการถ่ายรูปสถานที่เองก็มีสิ่งที่ควรคำนึงอยู่ไม่น้อยเหมือนกันโดยจะไม่ เหมือนกับการถ่ายรูปสัตว์ตรงที่ในการถ่ายรูปสถานที่นั้นควรคำนึงถึงสิ่งที่ เราต้องการเพราะการถ่ายรูปสถานที่นั้นความคำนึงถึงอารมณ์รูปภาพนั้นด้วย อย่างเช่นการถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกนั้นสามารถบ่งบอกอารมณ์ต่างได้เช่นกัน นั่นก็แล้วแต่มุมมองของและละคนที่จะมองภาพศิลปะนั้นให้ออกมาเป็นอย่างไรดัง นั้นช่วงเวลาในการถ่ายภาพก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกันซึ่งส่วนใหญ่ภาพที่ดู ให้ความสดชื่นมักจะเป็นภาพป่าและภูเขาที่มีสีเขียวเยอะทำมีความรู้ศึกผ่อน คลายและเป็นธรรมชาติ เวลาส่วนใหญ่ที่ในการถ่ายภาพประเภทนี้ส่วนใหญ่มักจะใช้เวลาในช่วงเย็นซึ่งจะ ทำให้ภาพนั้นยิ่งดูร่มรื่นอีกด้วยครับ ซึ่งภาพสถานที่เดียวกันแต่ต่างมุมกล้องก็อาจจะทำให้ภาพนั้นดูแตกต่างกันได้ อย่างมากครับ อย่างเช่นภาพน้ำตกซึ่งถ้าถ่ายจากมุมตรงระยะไกลจะเป้นความสวยงามของสถานที่ นั้นๆได้คบถ้วนทำให้เกิดความน่าที่จะไปเที่ยวเล่นแต่สำหรับภาพสำหรับเตือน ภัยมักจะถ่ายถึงกระแสน้ำที่เชี่ยวโดยจับให้เห็นรายละเอียดของภาพได้เยอะ อาจจะเห็นถึงหินสกปรกใต้น้ำเลยที่เดียว ซึ่งจะเป้นภาพระยะใกล้ครับ ดังนั้นศิลปะการถ่ายภาพจึงสามารถทำคนที่มองภาพได้รู้ศึกตามภาพโดยศิลปินเป็น ตัวกำหนดลักษณะของผลงานนั่นเอง